อย่างที่ทราบกันดีว่ามีลักษณะคล้ายกับการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง โดยสามารถเล่นได้ทีละหลายคน เป็นการลงเดิมพันระหว่าง Player กับ Banker ซึ่งในแต่ละเกมจะใช้ไพ่ทั้งหมดประมาน 6 – 8 สำรับ และใช้ไพ่ในการตัดสินสูงสุดเพียง 3 ใบเท่านั้น สำหรับการคาดการณ์ว่าเหลือไพ่ใบไหนบ้าง หลังจากที่เริ่มเล่นไปแล้ว ให้ดูจากตารางสถิติที่แสดงผลการแพ้ ชนะ หรือเสมอ ในเกมก่อนหน้าทั้งหมด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของผู้เล่นก่อนการลงเดิมพันครั้งต่อไป โดยมีการแบ่งการเดิมพันได้ถึง 7 แบบด้วยกัน ดังนี้
– TIE เดิมพันว่าไพ่ระหว่าง PLAYER และ BANKER จะออกเสมอกัน
– SMALL เดิมพันว่า หากเกมในรอบนั้นแจกไพ่ไม่เกิน 4 ใบ ถือว่าชนะ
– PLAYER PAIR เดิมพันในฝั่งของผู้เล่นว่าไพ่ที่ได้นั้นจะออกคู่
– PLAYER เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะ
– BANKER เดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝ่ายชนะ
– BIG เดิมพันว่า หากเกมในรอบนั้นแจกไพ่เกิน 4 ใบ ถือว่าชนะ
– BANKER PAIR เดิมพันในฝั่งของเจ้ามือว่าไพ่ที่ได้นั้นจะออกคู่
– ไพ่ 10, J, Q, K = 0 แต้ม
– ไพ่ A นับ 1 แต้ม
– ไพ่ 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 แต้มนับตามจำนวนหน้าไพ่
ในอัตราการจ่ายเงินสูงสุด คือ BANKER PAIR, PLAYER PAIR และ TIE ตามลำดับ โดยที่เปอร์เซ็นต์การออกหน้าไพ่แบบนี้ก็จะแตกต่าง ลด น้อยลงไปตามอัตราจ่ายที่ทางคาสิโนกำหนด เมื่อรู้แล้วว่าการเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์เล่นยังไง ลองลงมือเล่นเดิมพันในโหมดทดลองเล่นฟรีไม่เสียเงิน ถือเป็นการฝึกฝนฝีมือในการเล่นให้เก่งมากขึ้น